มิวเซียมลอนดอนประกาศปิดให้บริการใน ค.ศ.2024 และเตรียมเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า “London Museum” ที่มีกำหนดเปิดให้บริการใน ค.ศ. 2026 สมิธฟิลด์ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์สำคัญจะกลายเป็นบ้านใหม่ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ การตัดสินใจสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่บนพื้นที่แห่งนี้ นำมาสู่การสำรวจเรื่องราวที่น่าสนใจ
"The Last Day of Old Smithfield Market" ตีพิมพ์ใน The Illustrated London News เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1855 แสดงให้เห็นตลาดสมิธฟิลด์ในรูปแบบตลาดกลางแจ้ง ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นตลาดที่มีหลังคาคลุม ในภาพนี้ เห็นแถวของคอกสัตว์ พ่อค้า และผู้ซื้อ โดยมีมหาวิหารเซนต์พอลปรากฏอยู่ในฉากหลัง
(ภาพจาก https://www.researchgate.net/profile/Piers-Beirne/publication/287897755/figure/fig1/AS:388501469188101@1469637376862/The-Last-Day-of-Old-Smithfield-Market-Source-The-Illustrated-London-News-16-June.png
ตลาดสมิธฟิลด์ (Smithfield Market) ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงลอนดอน เป็นหนึ่งในตลาดค้าส่งเนื้อสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 เดิมพื้นที่นี้เรียกว่า “สมูธฟิลด์” เพราะเป็นทุ่งหญ้าเปิดโล่งที่ใช้สำหรับการค้าปศุสัตว์และการชุมนุมสาธารณะ ต่อมาในศตวรรษที่ 12 พื้นที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาเป็นตลาดปศุสัตว์สำคัญ ด้วยชัยภูมิที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำฟลีต ที่เอื้อต่อการขนส่งสินค้า
ตลาดค้าเนื้อสมิธฟิลด์ ค.ศ. 1870 เป็นศูนย์กลางการค้าขายเนื้อของลอนดอน ในอาคารแบบวิกตอเรียน แสดงท้องถนนขวักไขว่ด้วยเกวียนม้าและความคึกคักของผู้คน
(ภาพจาก https://media.londonmuseum.org.uk/images/WagtailSource-The-Meat-Market-Sm.width-1136.format-webp.webp)
นอกจากบทบาททางการค้าแล้ว สมิธฟิลด์ยังมีประวัติศาสตร์ที่มืดมน เพราะเป็นลานประหารชีวิตในยุคกลาง รวมถึงการเผาผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนอกรีต และการประหารบุคคลสำคัญ เช่น เซอร์วิลเลียม วอลเลซ อัศวินชาวสกอตแลนด์ที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศ เมื่อ ค.ศ. 1305 ในศตวรรษที่ 19 ตลาดสมิธฟิลด์ได้รับการปรับปรุงจากตลาดกลางแจ้งที่จอแจ กลายเป็นอาคารตลาดที่มีหลังคาคลุม สถาปัตยกรรมดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยเซอร์โฮเรซ โจนส์ ในรูปแบบศิลปกรรมแบบวิกตอเรียน โดยเปิดใช้งานเมื่อ ค.ศ. 1868 เป็นมีโครงสร้างเหล็กที่สร้างขึ้นอย่างประณีต และมีสภาพแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะ
ปัจจุบัน มีโครงการจัดสร้างให้ตลาดสมิธฟิลด์เป็นมิวเซียมลอนดอนแห่งใหม่ เนื่องจากข้อจำกัดหลายประการของมิวเซียมลอนดอนที่ตั้งอยู่ในถนนลอนดอนวอลล์ สถานที่เดิมถูกวิจารณ์ว่า "เป็นอาคารที่เสื่อมสภาพ มีปัญหาทางเข้าออกที่ไม่สะดวก และอยู่ในตำแหน่งที่หายาก" การย้ายพิพิธภัณฑ์มายังตลาดสมิธฟิลด์จึงเป็นโอกาสในการสร้างพื้นที่ที่เข้าถึงง่ายขึ้นและขยายขนาดของพิพิธภัณฑ์ให้ใหญ่ขึ้น โดยมีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 27,000 ตารางเมตร สำหรับการัดแสดง
แนวคิดการออกแบบ Past Time gallery ในมิวเซียมลอนดอนแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ใต้ดินบริเวณตลาดสด ภายในจัดแสดงเรื่องราวกว่า 10,000 ปีของนครลอนดอน ที่ผสมผสานฉากจัดแสดงและเน้นการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม โดยมีสิ่งจัดแสดงที่เป็นโบราณวัตถุจากยุคโรมัน เสื้อผ้า ยานพาหนะ เป็นต้น
(ภาพจาก https://media.londonmuseum.org.uk/images/wagtailsource-london-museum-plan.width-1136.format-webp_GlJOyYn.webp)
ในการออกแบบ มีการนำคุณลักษณะทางสถาปัตยกรรมมาเป็นส่วนหนึ่งของอาคารนิทรรศการ และยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับพื้นที่โดยรอบ ที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ประตูเซนต์จอห์นและโบสถ์ Priory of St. John ฉะนั้น มิวเซียมลอนดอนแห่งใหม่จะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินทางไปสู่ประวัติศาสตร์เมือง
เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2023 มีการวางศิลาฤกษ์ ส่วนหลังคาโดมของตลาดสัตว์ปีกได้รับการบูรณะเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนธันวาคม 2023 โครงการยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างมาก ในเดือนกันยายน 2024 พิพิธภัณฑ์ได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติมถึง 50 ล้านปอนด์จากองค์กร City of London Corporation และนายกเทศมนตรีลอนดอน พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่จะมีชื่อว่า London Museum
การเลือก Smithfield เป็นบ้านหลังใหม่ของ London Museum Spaces ถือเป็นการตัดสินใจที่ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ และสถาปัตยกรรมของพื้นที่ การนำพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่มาไว้ในพื้นที่อันมีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะรักษามรดกจากอดีตเอาไว้เท่านั้น แต่ยังสร้างเวทีสำหรับประสบการณ์ที่น่าสนใจและให้ความรู้ที่คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นในภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของลอนดอน
เรามาร่วมกันนับถอยหลัง มิวเซียมลอนดอนแห่งใหม่มีกำหนดเปิดใน ค.ศ. 2026 ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรม ได้ที่ https://www.londonmuseum.org.uk/
แหล่งข้อมูล
ภาพปก
พิพิธภัณฑ์ลอนดอนแห่งใหม่จะตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ของตลาดสมิธฟิลด์ ซึ่งผสานความงดงามของอิฐแดงและหินจากอาคารตลาดสดเข้ากับดีไซน์ทันสมัยของตลาดค้าสัตว์ปีที่โดดเด่นด้วยคอนกรีต กระจก และทองแดง การออกแบบนี้สะท้อนถึงความสำคัญของพื้นที่ ขณะเดียวกันก็สร้างพื้นที่ร่วมสมัยสำหรับผู้ชมพิพิธภัณฑ์ในการสำรวจเรื่องราวประวัติศาสตร์ของลอนดอน
(ภาพจาก https://media.londonmuseum.org.uk/images/wagtailsource-london-museum-pla.height-1200.format-webp.webp)