Museum Core
พิพิธภัณฑ์ผู้พันไก่ พิษณุโลก
Museum Core
04 ก.พ. 68 177
ประเทศไทย

ผู้เขียน : สิรีธร นาดี

               พิพิธภัณฑ์ผู้พันไก่เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคลของพันเอก เกียรติกุล ก่อพงศาสตร์ หรือผู้พันไก่ ผู้ที่ชื่นชอบและเก็บสะสมสิ่งของโบราณในยุควินเทจ และข้าวของเครื่องใช้เก่าร่วมสมัยด้วยตนเองมากกว่า 3 ปี จนมีจำนวนนับหมื่นชิ้น จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดให้คนทั่วไปที่สนใจได้เข้าเยี่ยมชมมานานกว่า 7 ปีแล้ว  โดยเจ้าของพิพิธภัณฑ์ได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียด ความเป็นมาของวัตถุทุกชิ้นในพิพิธภัณฑ์พร้อมกับเป็นวิทยากรพาเยี่ยมชมและอธิบายรายละเอียดที่มาที่ไปของสิ่งสะสมต่าง ๆ ด้วยตนเอง

               ในวันที่ผู้เขียนไปศึกษาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ผู้พันไก่ได้เล่าความเป็นมาให้ฟังว่า แต่เดิมอาคารพิพิธภัณฑ์เคยเปิดเป็นร้านค้าและร้านรับจำนำ ในช่วงแรกมีคนนำของใช้เก่า หรือของสะสมอย่างเหรียญและธนบัตรเก่ามาจำนำแลกเป็นเงิน จึงทำให้เกิดความสนใจเก็บสะสมของเก่าเรื่อยมา ซึ่งข้าวของในพิพิธภัณฑ์นั้น มีทั้งสิ่งของที่ผู้พันไก่ซื้อหามาสะสมเอง และของที่ได้รับการตกทอดเป็นมรดกมาจากรุ่นคุณปู่ด้วยอย่าง งาช้างคู่ที่มีลักษณะกิ่งสมบูรณ์ โดยกิ่งหนึ่งมีความยาว 111 ซม.  เเละอีกกิ่งหนึ่งมีความยาว 118 ซม.

 

ภาพที่ 1 งาช้างที่เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นคุณปู่

 

               นอกจากนี้ยังมีสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาจากคนที่สนับสนุนและมอบให้กับพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้จากของเก่าที่สำคัญและหายาก ดังนั้นภายในพิพิธภัณฑ์จึงเต็มไปด้วยสิ่งของที่มีทั้งคุณค่าทางจิตใจและมูลค่าราคาตั้งแต่น้อยไปจนถึงมูลค่าสูง สิ่งของที่ผู้พันไก่สะสมไว้มีมากมายหลากหลายประเภทและอายุสมัย ได้แก่ ข้าวของที่จัดอยู่ในหมวดที่มีความเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงรัชกาลปัจจุบัน (อาทิ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ได้แก่ รัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 8 รัชกาลที่ 9 ตลอดจนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในช่วงทรงพระเยาว์) หมวดเงินตรา (หอยเบี้ย เงินพดด้วงสมัยโบราณ เหรียญ ธนบัตร สตางค์รูหรือสตางค์แดงสมัยราชวงศ์ต่าง ๆ ของประเทศจีน) หมวดข้าวของเครื่องใช้ทั่วไป (แจกันจีนยักษ์ 1 คู่ ภาพถ่ายเรือสำเภาจีน  เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นแรกภาษาไทยในสมัยรัชกาลที่ 5)

 

ภาพที่ 2 เครื่องพิมพ์ดีดยุคโบราณ

               ในบรรดาสิ่งของที่จัดแสดงไว้นั้น ผู้เขียนเห็นว่ามีหลายชิ้นที่มีความน่าสนใจ ตัวอย่างเช่น หมวกประดาน้ำในสมัยก่อนทำจากเหล็กที่มีน้ำหนักมากถึง 30 กิโลกรัม หมวกทหารญี่ปุ่น เครื่องบดยาโบราณภูมิปัญญาไทย โฉนดที่ดินในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีขนาดใหญ่และมีการใช้คำศัพท์หลายคำที่แตกต่างจากปัจจุบัน พระเครื่องที่ทำด้วยหินอ่อน รวมไปถึงข้าวของที่เคยใช้กันทั่วไปในอดีตที่เพิ่งผ่านมาไม่นานมากนัก เช่น  กล้องถ่ายรูปที่ใช้ระบบฟิล์ม เครื่องฉายหนังแบบ 35 มม. ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นยุคที่การฉายหนังกลางแปลงเฟื่องฟูมากโดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีการนำหนังใส่เรือหรือรถยนต์ไปจัดฉายกลางลานโล่งในวัด หรือกลางท้องนา เพจเจอร์หรือวิทยุตามตัวที่เป็นเครื่องมือสื่อสารส่วนตัวอย่างง่ายที่ใช้ติดต่อกันผ่านการส่งข้อความสั้นๆ โทรศัพท์สาธารณะเเบบตู้หยอดเหรียญ ตลับเทปเพลงคาสเซ็ท เครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณ รถจักรยานพ่วงสามล้อ และโซนจำลองร้านขายของชำในสมัยก่อนจะมียาต่าง ๆ ผงซักผ้าของใช้ของเล่นในสมัยนั้น ๆ   

               ถัดมาเป็นส่วนจัดแสดงบนชั้นที่ 2 เป็นพื้นที่ของสิ่งสะสมที่หลากหลายปะปนกัน ทั้งโมเดลตัวการ์ตูนไอ้มดแดงตัวใหญ่ 3 ตัว ถังใส่ป็อปคอร์นและแก้วน้ำที่มาจากโรงภาพยนตร์ ตุ๊กตาเฟอร์บี้ ขวดเหล้ายักษ์ โมเดลตัวการ์ตูนอย่างโดเรเอม่อน มิกกี้เมาส์ สนู้ปปี้ เป็นต้น สิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้แม้บางชิ้นจะมีอายุไม่เก่าแก่มากแต่ก็เป็นสิ่งสะสมที่อยากเจ้าของอยากแบ่งปันให้คนอื่นๆ ได้มาศึกษาชื่นชมตามความสนใจของแต่ละคน

 

ภาพที่ 3 ของสะสมสารพัดอย่างในพิพิธภัณฑ์

 

               ผู้เขียนรู้สึกประทับใจและนับถือในความเสียสละของผู้พันไก่ที่จัดทำบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งการเก็บสะสมข้าวของแต่ละชิ้น หรือการแสวงหาสิ่งของโบราณนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งผู้พันไก่และภรรยายังอุทิศเวลาทำหน้าที่เป็นวิทยากรอธิบายให้ข้อมูลความรู้ของสะสมแต่ละชิ้นด้วยตนเอง หรือข้าวของบางชิ้นก็มีการจัดทำข้อมูลเป็นคิวอาร์โค้ดให้สแกนอ่านประวัติความเป็นมาในยุคสมัยนั้น ๆ ได้อย่างละเอียดอีกด้วย

                นอกเหนือจากการถ่ายทอดความรู้ให้แก่คนรุ่นหลังแล้ว ผู้เขียนยังสังเกตเห็นบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันด้วยระหว่างเจ้าของพิพิธภัณฑ์กับผู้ที่มาเยี่ยมชม ดังนั้นการชมพิพิธภัณฑ์จึงไม่ได้จำกัดเฉพาะกับนักเรียนนักศึกษาเท่านั้น แต่บุคคลทั่วไปที่มีความสนใจใคร่เรียนรู้ ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งของสะสมในอดีต หรือข้าวของยุคโบราณที่มีอายุไม่น้อยกว่าร้อยปีก็สามารถมาชม มาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ ในมุมมองของผู้เขียนในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่มีความเห็นว่าของเก่า ของโบราณที่หาดูได้ยาก หรือสิ่งของในอดีตที่ไม่เคยเห็น ไม่รู้จักมาก่อน มีหลายชิ้นที่มีความน่าสนใจและน่าประทับใจมากจึงอยากเชิญชวนให้ลองเปิดใจไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดูสักครั้ง

แกลเลอรี่


ย้อนกลับ