จากกระแสเกม ROV ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ จนถึงขั้นเด็กไทยไปชนะการแข่งขันคว้าเงินราวัล 1 ล้านบาท จากการแข่งขัน ROV ชิงแชมป์นานาชาติ ที่ประเทศเวียดนาม นายกบแดงเลยมานั่งรำลึกความหลังว่าก่อนที่จะมีเกม ROV นั้น ในอดีตวัยรุ่นเขาเล่นเกมอะไรกันบ้าง จนได้มาเจอกับ “National Videogame Museum” พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกมต่างๆ ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มกำเนิดวิดีโอเกม มาจนถึงปัจจุบันแม้ว่าวิดิโอเกมจะได้รับความนิยมน้อยลง เพราะคนส่วนใหญ่หันมาเล่นเกมในมือถือกันหมด แต่อดีตและความทรงจำในวัยเด็กก็เป็นสิ่งที่ยังคงคุณค่าทางจิตใจเสมอ

‘NVM’ หรือมีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า ‘National Videogame Museum’ ตั้งอยู่ที่ Frisco,Texas สหรัฐอเมริกา เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2015 จัดตั้งขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการสร้าง และวิวัฒนาการความเติบโตของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเกมตั้งแต่อดีตจนมาสู่ปัจจุบันที่บริษัทเกมได้สร้างผลกำไรมหาศาล สำหรับคอเกมต้องเรียกได้ว่า National Videogame Museum ถือเป็นขุมทรัพย์ที่เก็บรวบรวมสมบัติหายากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการเล่นเกมไว้ที่นี่ เพราะบรรดาเครื่องเกม และตลับเกมต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ล้วนแล้วแต่เป็นเกมเก่าหายากและมีมูลค่าค่อนข้างสูง ถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ NVM มากกว่าแสนชิ้นเลยทีเดียว พิพิธภัณฑ์ที่ต้องการให้คุณสัมผัส! เน้นย้ำว่าจะต้องสัมผัส จับ เล่น เพื่อคุณจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากตู้เกมต่างๆ ที่จัดแสดงไว้สำหรับผู้เข้าชมให้ทดสอบเล่นเกมในยุคแรกๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อกำเนิดมาจากนักเล่นเกมตัวยงถึง 3 คนด้วยกัน เริ่มมาจากเป็นผู้เล่น และหลงใหลในเกมมากขึ้น พวกเขาก็กลายมาเป็นนักสะสม และสุดท้ายจึงร่วมมือกันจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับเกมไว้ให้คนรุ่นหลังๆ ได้ชม ภายในพิพิธภัณฑ์ผู้ชมจะได้พบกับวิวัฒนาการของเกมตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา เพื่อเก็บรวบรวมทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเกมทางกายภาพทั้งในรูปแบบที่ให้ทั้งความบันเทิงและข้อมูล ไว้ให้กับคนรุ่นหลังได้ดู ประกอบด้วย 4 ส่วนหลักๆ คือ The Timeline of Consoles ยุคของเครื่องวิดีโอเกม, เกมตู้หยอดเหรียนยุค 80, Educational Programs จัดห้องเรียน STEM เปิดคลาสเรียนสำหรับเยาวชนและผู้ใหญ่ภายใต้บรรยากาศการเรียนที่สนุกสนาน ซึ่งคลาส STEM ย่อมาจากสาขาวิชาที่เปิดสอนคือ Science, Technology, Engineering และ Math นั่นเอง ส่วนสุดท้ายจะเป็นโซน Pre-Historic ประวัติศาสตร์ของเกมยุคแรกอย่างเกม Pong และเกม PC ไฮไลท์จะเป็นส่วนของเกมหายากและมีมูลค่าสูง ไม่ว่าจะเป็น ตลับเกม The Nintendo World Championship 1990 ที่มีมูลค่าสูงถึง 11,000 USD และ Atari Mindlink Controller ซึ่งมีเพียงสองเครื่องในโลกเท่านั้น และยังมีคลังข้อมูลเอกสารกว่า 25 ปี ที่ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อีกด้วย รูปแบบการจัดแสดงส่วนที่เป็นของหายากก็โชว์ไว้ในตู้กระจก

นอกจากการจัดแสดงเครื่องเกมเก่าหายากแล้ว ผู้เข้าชมยังได้สัมผัสกับเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นคลาสสิคกว่า 45 เครื่อง เครื่อง Playstation 3 และ ตู้เกมหยอดเหรียญ ที่จัดให้ผู้เข้าชมได้ลองเล่น นอกจากนี้ยังมีจอมอนิเตอร์ทัชสกรีนกว่า 40 เครื่อง ที่คอยให้ข้อมูลสลับผลัดเปลี่ยนกันไป ไม่ว่าจะเป็น ภาพโฆษณาเกมยุคเก่า, ภาพเครื่องแต่งกายของเด็กติดเกมในยุคแรกๆ รวมไปถึงภาพประวัติศาสตร์สงครามเกมครั้งแรกที่ถูกจัดขึ้นในช่วงปี 1990 จาก  Nintendo, Sega และ NEC ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่หาดูได้ยาก และสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งความพิเศษที่ผู้ชมจะได้เจอก็คือ “ห้องเกมยุค 80” ที่ชื่อว่า “Pixel Dreams” ที่จะพาทุกคนดำดิ่งไปสู่ความทรงจำในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเกม Pac-Man, DigDug, Space Invader, Mortal Kombat, Punch-Out!! Centipede, Asteroids Deluxe, Donkey Kong Jr และเกมอื่นๆ อีกมามาย เด็กยุคใหม่จะได้รู้ว่าเกมที่ถือว่าเป็น “เกมแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาในโลก” นั่นก็คือเกม Pong ที่ออกมาในปี 1970 มีลักษณะคล้ายกับเกมตีปิงปอง โดยมีแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ทั้ง 2 ด้านซ้าย-ขวา เอาไว้ตีลูกวงกลมโต้กันไปมา

เรียกได้ว่าทุกที่ภายในพิพิธภัณฑ์คุณจะพบกับตัวละครเอกจากเกมยอดนิยมต่างๆ จัดวางไว้เพื่อให้แขกผู้มาเยือนร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เช่น หุ่นมาริโอ้ เกมฮิตที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี กับผนังภาพ Duck Hunt เกมยิงเป็ดในตำนาน เอาไว้เป็นแบลคกราวให้ได้ถ่ายภาพสวยๆ กันอีกด้วย หากใครได้มีโอกาสไปเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วอยากจะไปรำลึกความหลังก็สามารถแวะไปเยี่ยมชม National Videogame Museum กันได้ โดยผู้ที่สนใจสามารถซื้อตั๋วเข้าชมที่หน้าพิพิธภัณฑ์ได้เลย ในราคา $12 สำหรับบุคคลทั่วไป, $10 สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 10 และพลเมืองอาวุโส นักเรียน ทหารประจำการ เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เข้าชมฟรี หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://nvmusa.org

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

- http://nvmusa.org/ และเฟซบุคแฟนเพจ National Videogame Museum

แกลเลอรี่

ดูทั้งหมด

01 48