การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
ในพื้นที่มิวเซียมสยามได้มีการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณวังเก่าของเจ้ากรมมุกและกรมช่างสิบหมู่ พบชิ้นส่วนเปลือกหอยจำนวน 520 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นหอยมุกไฟหรือหอยอูด (Nile top shell) ทั้งหมดเป็นเศษที่เหลือจากการทำงานประดับมุก บริเวณที่พบชิ้นส่วนเปลือกหอยนี้อาจเป็นสตูดิโอ หรือสถานที่ทำงานประดับมุก และมีพื้นที่สำหรับทิ้งเศษเปลือกหอยที่เหลือใช้
เศษเปลือกหอยมี 4 แบบคือ แกนหอยที่ตัดเปลือกไปแล้ว ก้นหอยที่นำมาทำมุกไม่ได้ ก้นหอยติดแกนที่เหลือจากตัดเปลือก และเปลือกหอยที่ตัดเป็นชิ้น บางชิ้นถูกฝนขัดจนเรียบเนียนแวววาว ทั้งหมดแสดงถึงกระบวนการเตรียมเปลือกหอยเพื่อนำมาประดับมุกต่อ
แล้วชิ้นส่วนสำคัญเขาตัดไปทำอะไร? ในช่วงรัชกาลที่ 3 - 5 มีความนิยมใช้งานประดับมุกตกแต่งบานประตูหน้าต่างของโบสถ์วิหาร เครื่องเรือน และเครื่องใช้ต่างๆ เปลือกหอยที่พบในพื้นที่นี้จึงน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานประดับมุกที่นิยมในช่วงนั้น
วิธีการประดับมุกเป็นอย่างไร? เริ่มจากการร่างลายบนผิวไม้ แกะสลักให้เป็นลายตื้นๆ ฝังชิ้นมุกที่ฉลุ และขัดจนเป็นประกายแวววาวลงบนลายที่แกะไว้ จากนั้นถมยางรักให้เต็มพื้นผิว ขัดจนลายมุกปรากฏขึ้นมาเรียบเสมอกับผิวไม้สีดำ งานนี้นับเป็นงานประณีตศิลป์ที่ต้องใช้เวลา ฝีมือ และมีขั้นตอนที่ซับซ้อน