Muse Pop Culture
เริ่ดสะแมนแตน คำไทย แขกเขมรทำ
Muse Pop Culture
21 ก.ย. 65 13K

ผู้เขียน : Administrator



สืบเนื่องจากคำว่า “เด๊ดสะมอเร่” ที่ฮ็อตฮิตไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
มีผู้ถามไถ่ให้มิวเซียมสยามพูดถึงคำสแลงแสลงหูอีกคำบ้า
ที่ประดิษฐ์ขึ้นจากปากของบุคคลคนเดียวกัน คือ “เทิ่ง สติเฟื่อง”
คำนั้นก็คือ “เริ่ดดดด สะแมนแตน” ยังไงละฮ้า

ที่มาที่ไปก็เริ่ดสมชื่อเลย มาติดตามกันได้เล้ย...

 

เลิศสมันเตา
ชื่อเริ่ดๆ ของนายเลิศ

หากบอกว่ามีคนตั้งชื่อลูกว่า “เลิศสมันเตา”
เราก็คงบอกว่า จะบ้าเหรอ ชื่อไรพิลึกจัง เพื่อนล้อแย่เลย
แต่ก็มีคนทำไปแล้วนะครับ
นายชื่น เศรษฐบุตร ตั้งชื่อบุตรชายคนที่ 2 ที่เกิดในช่วงต้นรัชกาลที่ 5 ว่า
“เลิศสมันเตา”
เป็นการตั้งชื่อทิพย์แบบเอาเคล็ด บุตรชายจะได้เลิศเลอเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต

คำนี้มีที่มาที่พิลึกพิลั่นมาก
เพราะเป็นการผสมคำแบบอิหยังวะ จากคำที่มีที่มาจาก 2 ภาษา
หนึ่งคือ “เลิศ” – อีกหนึ่งคือ “สมันตะ”

“เลิศ” ดูจากการสะกดก็เดาไม่ยากว่าไม่ใช่คำไทยแท้
และก็ไม่ใช่คำภาษาบาลีหรือสันสกฤตด้วยนะ
แต่กลับเป็นคำยืมมาจากภาษาเขมร!
ภาษาเขมรเขียนว่า លើស (เลีส) อ่านว่า “เลอ” แปลว่า เกิน เหลือประมาณ
ไทยรับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ปรากฏหลักฐานคำว่า “ละเลิศ” ตั้งแต่สมัยต้นอยุธยาแล้ว
คำว่า “เลิศ” จึงเป็นคำไทย เขมรทำ ที่อยู่คู่เรามานาน

ส่วนคำว่า “สมันตะ” นั้น เป็นคำภาษาสันสกฤต
เขียนว่า समन्त (สมนฺต) อ่านว่า “ส-มันตะ”
แปลว่า รอบด้าน โดยรอบ โดยทั่ว โดยประการทั้งปวง
อย่างเช่นคำว่า
“สมันตจักษุ” หมายถึงผู้มีจักษุหรือดวงตาโดยรอบ ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าผู้รู้ทุกสิ่ง เห็นธรรมทั้งปวง
หรือในบทชุมนุมเทวดา ที่ขึ้นต้นบทสวดว่า “สมันตะ จักกะวาเฬสุ...”

การรวมคำ “เลิศ” กับ “สมันตะ” นั้น หาใช่การสมาสสนธิอะไรทั้งสิ้น
แต่เป็นการรวมคำแบบไทยๆ ไร้ไวยกรณ์ กลายร่างมาเป็น “เลิศสมันเตา” ได้อย่างไรก็ไม่รู้
มีความหมายว่า เป็นเลิศเหนือผู้อื่น ดีเลิศไม่เหมือนใคร
เป็นชื่อทิพย์แสนเท่ไม่เหมือนใครของคนในสมัยร้อยกว่าปีก่อน
เมื่อเด็กชายเลิศสมันเตาเติบใหญ่ขึ้น จึงย่นเหลือเพียง “นายเลิศ เศรษฐบุตร” เท่านั้น

กาลผ่านล่วงเลยจนถึงราวปี 2480 นายเลิศเติบโตเป็นนักธุรกิจชื่อดังของสยาม
เป็นนายห้างเจ้าของกิจการมากมาย
แต่คำว่า “เลิศสมันเตา” ยังคงติดตัวอยู่ไม่ห่าง ด้วยกลายเป็นคำสแลงของวัยรุ่นในสมัยก่อนสงคราม
แปลว่า เด็ดมาก เจ๋งมาก เยี่ยมยอด
นอกจากนี้นายเลิศยังตั้งชื่อเรือส่วนตัวของตนเองว่าเรือ “สมันเตา” ด้วย เพื่อเป็นที่ระลึกถึงสร้อยคำแปลกๆ ท้ายชื่อที่พ่อตั้งให้

 

 

นายเลิศสมันเตา
เริ่ดยังไงบ้าง

นายเลิศเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จบุกเบิกกิจการด้านต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมด้วยกั
ในวัยเพียงแค่ 22 เมื่อปี 2437 (กลาง ร.5) เริ่มตั้งห้างใหญ่ขึ้นที่ถนนเจริญกรุง พร้อมสร้างโรงแรมเป็นตึกสูงถึง 7 ชั้น
ห้างนายเลิศนำเข้าของทันสมัยจากเมืองฝรั่ง อย่างแฮม ชีส อาหารกระป๋อง น้ำมะเน็ต (น้ำอัดลมกลิ่นมะนาว) รวมไปถึงจักรเย็บผ้า สยามในยามนั้นเห่อฝรั่งจะตา

นายเลิศยังตั้งโรงน้ำแข็งขึ้นเป็นแห่งแรกในสยาม ที่ย่านสี่พระยา จนได้ฉายา นายเลิศผู้ปั้นน้ำเป็นตัว

อีกธุรกิจที่สร้างชื่อให้กับนายเลิศ คือเรือเมล์
เป็นเรือโดยสารประจำทางแล่นในคลองแสนแสบ จากหนองจอก มีนบุรี มาสิ้นสุดที่ประตูน้ำ

แล้ว “รถเมล์ขาว” นายเลิศ จึงได้เปิดดำเนินการขึ้น เพื่อเดินรถเชื่อมต่อจากเรือเมล์
สร้างโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนให้กว้างขวางขึ้น
แรกเปิดในปลาย ร.5 ยังเป็นรถเมล์ม้าลาก
อีก 3 ปีต่อมา นายเลิศสั่งเครื่องยนต์มาจากอังกฤษ ให้ช่างไม้จากเซี่ยงไฮ้ ต่อตัวถังรถจากไม้ขึ้นมา นั่งได้ 10 คน
ประเดิมสายแรก เริ่มต้นที่ประตูน้ำ ปลายทางสี่พระยา

รถเมล์ขาวนายเลิศนี่แหละที่สร้างชื่อให้กับนายเลิศ เศรษฐบุตร หรือพระยาภักดีนรเศรษฐ
ด้วยต่อมากิจการเติบโตขึ้นจนขยายไปถึง 36 สายทั่วพระนคร
หากถามคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
จะให้ภาพของรถเมล์ขาวนายเลิศเป็นดั่งระบบขนส่งมวลชนในอุดมคติของชาว กทม.
ด้วย พขร. แต่งตัวด้วยเครื่องแบบขาว
สวมหมวกหม้อตาลสีขาว คล้ายชุดกะลาสี รองเท้าขาวสะอาด
พนักงานพูดจาสุภาพ รถก็สะอาดสะอ้าน แถมขับรถจอดตรงป้าย
กิจการรถเมล์ขาวนายเลิศดำเนินกิจการยาวนานถึงร่วม 70 ปี มีรถมากถึง 700 คัน มีพนักงานราว 3,500 คน
รถเมล์นายเลิศต้องเลิกไปในปี 2520 เมื่อมีการควบรวมกิจการเดินรถประจำทางเป็น ขสมก.
ปิดตำนานรถเมล์ในดวงใจของใครหลายคนอย่างไม่มีวันหวนคืน

อนุสรณ์ที่นายเลิศทิ้งไว้ในปัจจุบันก็มี ปาร์คนายเลิศ ตรงเพลินจิต, รพ.เลิดสิน ตรงสีลม, และ รร. เศรษฐบุตรบำเพ็ญ
 
 
เริ่ดสะแมนแตน
เรื่องเริ่ดๆ ของเทิ่ง สติเฟื่อง

เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า “เทิ่ง สติเฟื่อง” คือผู้ประดิษฐ์คำว่า “เริ่ดสะแมนแตน” ขึ้นมา
แต่ในปีไหน พ.ศ. ใด ไม่อาจฟันธงได้
สันนิษฐานว่า ขณะที่ ด.ช. บรรยงค์ เสนาลักษณ์ ยังเป็นลูกเจี๊ยบอยู่นั้น
คงคุ้นหูกับคำว่า “เลิศสมันเตา” อยู่บ้างแล้ว
ด้วยเป็นคำสแลงแสลงหูอยู่ในสมัยนั้น

เมื่อนายบรรยงค์เริ่มเข้าทำงานที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีแล้วนั้น
(คือช่อง 4 บางขุนพรหม หรือ ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. หรือ ช่อง 9 MCOT ในปัจจุบัน)
นายบรรยงค์ หรือชื่อในวงการว่า “เทิ่ง สติเฟื่อง” ได้โด่งดังขึ้นจากการเป็นพิธีกรโฆษณาสินค้าสดๆ ทางทีวี
(ในสมัยปี 2500-2520 มักจัดเป็นรายการสดกัน ด้วยยังไม่มีการบันทึกเทปโทรทัศน์)
และที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในตอนนั้นก็คือ ...

เมื่อเข้าเบรกโฆษณาผงซักฟอกยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งมีกะละมังซักผ้าตีฟองฟอดตั้งอยู่ภายในห้องส่ง
โฆษกสติเฟื่องของเราก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมทางบ้านโดยการก้าวพรวดลงไปนั่งยองๆ ในกะละมัง ทั้งๆ ที่ยังสวมใส่ชุดสูทสากลอยู่
พร้อมเจื้อยแจ้วสาธยายสรรพคุณของผงซักฟอกแบรนด์นั้นต่อไปเรื่อยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรียกว่าซักผ้าที่สวมอยู่กันสดๆ ออนแอร์ให้เห็นไปทั่วประเทศเลยทีเดียวเชียว

คือมัน “เริ่ดสะแมนแตน” จริงๆ ฮ่ะ คุณแม่บ้าน

อย่างนี้สิที่เรียกว่า ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ตำนานเริ่ดๆ จะอยู่ตลอดไป จริงมั้ยครับคุณผู้อ่านทุกท่าน

ป.ล.
บางทฤษฎีกล่าวว่า คำว่า “เริ่ดสะแมนแตน” เพี้ยนมาจากคำภาษาฝรั่งเศสว่า La Samaritaine (ลาซามารีแตน) ซึ่งเป็นชื่อห้างหรูและเก่าแก่ในกรุงปารีส ก็เข้าเค้าอยู่นะ

เครดิตภาพ
OKnation: srdture
FB: nailertparkheritagehome

www.thairath.co.th

 

MuseumSiam
#ให้ทุกการเรียนรู้สนุกกว่าที่คิด

แกลเลอรี่


ย้อนกลับ