2015 เป็นปีที่พิพิธภัณฑ์เปิดตัวกันอย่างคึกคัก เว็บไซต์ www.designboom.com จึงสรุปรวม 10 พิพิธภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดประตูต้อนรับคนเช้าชมในปี 2015 และเป็นที่พูดถึงกันมากที่สุด 

 

 

พิพิธภัณฑ์ Fondazione Prada ในมิลานได้รับการออกแบบจากบริษัท OMA (Office for Metropolitan Architecture) โดยพื้นที่ 19,000 ตารางเมตรประกอบไปด้วยอาคารของเดิมที่เคยเป็นโรงกลั่นเหล้ายิน 7 หลัง และสร้างใหม่อีก 3 หลัง ในส่วนของพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่สำหรับการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย โรงภาพยนตร์ หอประชุมอเนกประสงค์ ส่วนหอคอยซึ่งทำหน้าที่เป็นแกลเลอรี่สูง 10 ชั้นถูกใช้เพื่อจัดแสดงคอลเล็กชั่นของผู้ก่อตั้งแบบถาวร

 

 

 

 

2. The Broad Museum            

ตั้งอยู่บนพื้นที่ทำเลเยี่ยมบนถนน Grand Avenue ใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย The Broad ได้รับการออกแบบโดยสตูดิโอ Diller Scofidio + Renfro ร่วมกับ Gensler สถาปัตยกรรมของสถาบันทางวัฒนธรรมแห่งนี้ถูกนิยามว่าเป็น “อุโมงค์และผ้าคลุม” เนื่องจากออกแบบโดยให้ความสำคัญกับพื้นที่จัดเก็บพอๆ กับพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ ในตัวอาคารมีพื้นที่กว่า 120,000 ตารางฟุต และยังมีลานกว้างสาธารณะอีก 24,000 ตารางฟุตที่สร้างติดกับตัวอาคารเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บริเวณโดยรอบ

 

 

 

 

 3. Whitney Museum of American Art

    อาคารใหม่ของ Whitney Museum of American Art ในนิวยอร์กได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน เรนโซ เปียโน ร่วมกับ คูเปอร์ โรเบิร์ตสัน ตั้งอยู่ระหว่างสวนสาธารณะไฮไลน์และแม่น้ำฮัดสัน โครงการนี้ถูกคาดหวังไว้สูงเพราะมีแกลเลอรี่ทั้งในร่มและกลางแจ้งซึ่งเพิ่มพื้นที่จัดแสดงผลงานให้กับพิพิธภัณฑ์มากกว่าบ้านหลังเดิมถึงสองเท่า “ประสบการณ์ในการมาพิพิธภัณฑ์คือศิลปะ รวมทั้งการเชื่อมต่อกับชุมชนเมืองและที่ตั้งทางกายภาพที่แสนพิเศษนี้ด้วย” เรนโซ เปียโน กล่าว

 

 

 

 

     Oita Prefectural Art Museum ถูกบรรยายว่าเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งประสาทสัมผัสทั้ง 5 และการเผชิญหน้า นี่คือผลงานการออกแบบของสถาปนิกชาวญี่ปุ่น ชิเงรุ บัน โครงสร้างทรงลูกบาศก์ยาว 80 เมตรถูกห่อหุ้มไว้ด้วยภายนอกที่รูปทรงเหมือนถักทอด้วยไม้ ชวนให้ระลึกถึงงานฝีมือจากไม้ไผ่ที่สืบทอดกันมาในภูมิภาคนั้น ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของภูมิภาค มีแผนกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมเชิงสังคมและสาธารณะ มีห้องโถงขนาดใหญ่ทำหน้าที่เป็นแกลเลอรี่ และยังมีพื้นที่เปิดสาธารณะอย่างร้านอาหารและเครื่องดื่มด้วย

 

 

 

 

5. Musée des Confluences  
     4 ปีหลังเริ่มลงมือก่อสร้าง พิพิธภัณฑ์ Musée des Confluences ที่ได้รับการออกแบบโดยบริษัท Coop Himmelb(l)au ก็เสร็จสมบูรณ์และเป็นศูนย์กลางของโครงการปรับโฉมย่านลียงในฝรั่งเศสที่กำลังดำเนินอยู่ ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่จุดตัดของแม่น้ำหลัก 2 สายของภูมิภาคนี้ ธีมว่าด้วยความแตกต่างและหลากหลายจึงถูกขับเน้นให้เด่นชัดในสถาปัตยกรรมของตัวพิพิธภัณฑ์เอง ด้วยการผสมผสานสิ่งที่อยู่แยกกันเพื่อให้เกิดโครงสร้างที่มีพลวัตใหม่ๆ ขึ้นมา แผนการใหญ่ซึ่งตั้งใจจะควบรวมความรู้ด้านเทคโนโลยี ชีววิทยา และจริยธรรม ทำให้มันเป็นทั้งพิพิธภัณฑ์และพื้นที่ผ่อนคลายที่ผู้คนในเมืองสามารถมารวมตัวกันได้อย่างรื่นรมย์

 

 

 

 

     MMM Corones ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงบนยอดเขา Plan de Corones ในอิตาเลียนแอลป์แห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก ซาฮา ฮาดิด มันเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งที่ 6 และแห่งสุดท้ายที่อุทิศให้กับอาชีพของ ไรน์โฮลด์ เมสส์เนอร์ นักสำรวจภูเขาชาวอิตาเลียน เนื้อหาในพิพิธภัณฑ์บอกเล่าความรู้เกี่ยวกับการปีนภูเขาผ่านคอลเล็กชันภาพถ่ายและสิ่งของต่างๆ ที่เมสส์เนอร์สะสมเอาไว้ในช่วงที่เขาเป็นนักสำรวจ       

 

 

 

 

พื้นที่แสดงศิลปะร่วมสมัยสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจีนได้เปิดทำการภายในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ยุค 1980 ที่ปรับปรุงใหม่ มันได้รับการออกแบบโดย Studio Pei-Zhu โดยต้องการให้แตกต่างจากพิพิธภัณฑ์ทรงลูกบาศก์สีขาวทั่วๆ ไป Minsheng Contemporary Art Museum ถูกวางแผนให้มีพื้นที่จัดนิทรรศการเป็นชุดๆ ได้หลากหลายประเภท ทีมออกแบบใช้ประโยชน์จากลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบอุตสาหกรรมหยาบๆ ของโรงงานดั้งเดิมอย่างการเปลือยผิวสัมผัสและพื้นผิว                                                

 

 

 

     ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Gorky Park ในกรุงมอสโคว์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงแกลเลอรี่ของ Dasha Zhukova นักธุรกิจชาวรัสเซียและนักสะสมศิลปะ ตัวอาคารได้รับการออกแบบโดยบริษัท OMA ของ Rem Koolhaas แสดงให้เห็นการปรับปรุงและนำศาลา Vremena Goda ยุค 1960 มาใช้ใหม่ พร้อมโปรแกรมจัดแสดงที่หลากหลาย การเรียนรู้ การวิจัย และพื้นที่จัดกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดแสดงวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ดีที่สุดของรัสเซีย          

 

 

 

 

     พิพิธภัณฑ์ศิลปะชุมชนซึ่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นคนดัง เคนโกะ คุมะ ถูกสร้างขึ้นในเมืองหางโจวของประเทศจีน สถาบันแห่งนี้มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และกระตุ้นให้มีการสร้างงานศิลปะและงานฝีมือขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการศึกษา รูปทรงของอาคารสอดคล้องกับภูมิประเทศทางธรณีวิทยาของภูมิภาค และตัวพิพิธภัณฑ์ก็พยายามไม่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่สีเขียวที่แวดล้อมด้วย    

 

 

 

 

     ศูนย์วัฒนธรรมครบวงจร Aïshti Foundation ในเบรุต เลบานอน ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษชื่อดัง David Adjaye และใช้เวลา 3 ปีในการก่อสร้าง คอมเพล็กซ์แห่งนี้ถูกอุทิศให้กับการนำเสนองานศิลปะร่วมสมัยจากคอลเล็กชันส่วนตัวของ โทนี่ ซาเลเม่ ประธานบริหารของแบรนด์หรูอย่าง Aïshti นอกจากนี้ยังมีอาร์ตแกลเลอรี่ ร้านค้าปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ อีกด้วย

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : designboom.com,  oma.eu  และ archdaily.com