สบร.และหน่วยงานภายใน จัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” ณ ลานมิวเซียมสยาม
ข่าวสารองค์กร
22 พ.ย. 59 3K
ตามที่รัฐบาลได้เชิญชวนข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกิจกรรม "รวมพลังแห่งความภักดี" ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์โดยพร้อมเพรียงกัน ในวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เวลา 8.00 น. เพื่อประกาศความจงรกัภักดี และรว่มรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89
  
 
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.)  และหน่วยงานภายใน อาทิ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.), สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) และ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TCDC) ได้จัดให้มีกิจกรรมปฏิญาณตน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และ ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ณ ลานกิจกรรม (สนามหญ้า) มิวเซียมสยาม เจ้าหน้าที่ทุกคนแต่งกายไว้ทุกข์ โดยมี ดร.อธิปัตย์ บำรุง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ เป็นผู้กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า
 
 
“ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายอธิปัตย์ บำรุง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ขอนำขอนำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ซึ่งชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้ ถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงความจงรักภักดีและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ปกเกล้าปกกระหม่อม ให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรชาวไทย อีกทั้งทรงบันดาลให้เกิดการพัฒนาประเทศไทยในทุกด้าน ตลอดมาเป็นเวลาถึง 70 ปี แม้บัดนี้จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ก็ยังทรงสถิตอยู่ในใจของปวงประชาชนชาวไทยด้วยความวิปโยคอาลัยอย่างไม่มีวันลืมเลือน ณ วาระนี้ ซึ่งปกติเคยเปล่งสัจวาจาถวายพระพรชัยมงคลเสมอมา จึงขอตั้งสัตยาธิษฐานถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณแทนด้วยข้อความดังต่อไปนี้
 
 
“ข้าพระพุทธเจ้า........จะซื่อตรงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทุกพระองค์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้า จะปฏิบัติหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศ อย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งจะร่วมกันปฏิรูปประเทศ และสนับสนุน ให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยอันนี้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ปกครองประเทศ ด้วยหลักนิติธรรม และธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุข แห่งประชาชนชาวไทย”
 
 
“ข้าพระพุทธเจ้า จะเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมกันนำพาประเทศชาติ ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสุข สันติสุข จะรู้รักสามัคคี เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ และประชาชนตลอดไป ข้าพระพุทธเจ้า ขอปวารณาตัวว่า จะพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืน ในการพัฒนาประเทศต่อไป ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายสัจวาจาว่าจะประพฤติปฏิบัติ ตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ และเชิญพระราชคุณธรรมจรรยา มาเป็นแนวทางการดำรงชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุขความเจริญ ของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของราชอาณาจักรไทยสืบไปด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”


ย้อนกลับ